หลาย ๆ ครั้งที่คนเลี้ยงเจ้าสี่ขาผู้ซื่อสัตย์ไม่รู้ตัวว่า สุนัขท้องกี่เดือน มาแล้ว สังเกตเห็นอีกทีก็ตอนที่ท้องของมันเริ่มป่องและมีนมใหญ่เต่งตึงผิดหูผิดตา ซึ่งหากเราสามารถรู้ได้ว่าสุนัขท้องกี่เดือน หรือว่ากำลังตั้งท้องอยู่ก็จะเป็นการดีกว่า เพราะจะสามารถเลือกหาอาหารดี ๆ บำรุงลูก ๆ ตัวน้อยในท้องให้กับเพื่อนซี้สี่ขาของเราได้อย่างเหมาะสมทันเวลา
สังเกตอาการว่าสุนัขท้องหรือไม่
ในช่วง 2 – 3 สัปดาหแรกแม่สุนัขยังคงไม่มีอาการผิดปกติเท่าใดนัก ดูภายนอกอาจจะไม่มีใครรู้ว่ากำลังท้องอยู่ แต่บางตัวก็เริ่มมีหัวนมตั้งขึ้นในช่วงสัปดาห์แรก ๆ และจะเริ่มเบื่ออาหารหรือกินอาหารได้น้อยลงจากเดิม
เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือนสุนัขจะเริ่มมีเมือกใส ๆ บริเวณช่องคลอดอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง อันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังเตรียมพร้อมสำหรับตั้งท้อง ผู้เลี้ยงอาจจะเริ่มสังเกตเห็นได้เมื่ออยู่ในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งยังไม่จำเป็นจะต้องเตรียมอาหารพิเศษให้กับสุนัขมากเท่าไรนัก เพียงเพิ่มโปรตีนในมื้ออาหารให้บ้างก็พอแล้ว
หากยังไม่แน่ใจว่าสุนัขท้องหรือเปล่า หรือท้องกี่เดือนมาแล้วก็ให้สังเกตหลังจาก 1 เดือนผ่านไปว่าสุนัขเริ่มกินเก่งขึ้นไหม และเริ่มขี้เกียจขยับตัว ไม่ค่อยอยากเดินไปที่ไหนหรือเปล่า รวมถึงสังเกตดูที่เต้านมว่ามีสีชมพูเข้มขึ้นไหม เพราะช่วงเวลาประมาณ 45 วันเลือดจะไปหล่อเลี้ยงที่บริเวณเต้านมมากขึ้น ทำให้ฐานของเต้านมขยาย การตรวจดูว่าสุนัขท้องหรือไม่จึงสังเกตได้จากช่วงนี้
การดูแลสุนัขท้อง
ไม่ว่าสุนัขจะท้องกี่เดือนมาแล้ว และไม่ว่าจะเป็นพันธุ์เล็กหรือพันธุ์ใหญ่ก็มีเวลาตั้งท้องที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสามารถสังเกตพร้อมดูแลสุนัขท้องได้ดังต่อไปนี้
สุนัขท้อง 1 สัปดาห์ ช่วงระยะเวลานี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มากนัก เนื่องจากฮอร์โมนตั้งครรภ์ยังไม่ชัดเจน จึงไม่สามารถสังเกตหรือระบุได้ว่าสุนัขกำลังท้อง
สุนัขท้อง 2 สัปดาห์ ในช่วงนี้อาจจะเห็นสุนัขเริ่มมีน้ำมีนวล เส้นขนดูเงางามขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก หากคุณรู้ว่าสุนัขกำลังท้องอยู่ก็ยังไม่ควรพยายามให้อาหารเขามากเกินไป เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดได้ ควรจะใจเย็น ๆ ก่อน ในช่วงนี้เพียงให้กำลังใจและมอบความรักให้เต็มที่ก็เพียงพอ
สุนัขท้อง 3 สัปดาห์ เจ้าของจะเริ่มสังเกตได้แล้วว่าสุนัขที่บ้านท้องอยู่หรือเปล่า เพราะนมสุนัขจะเริ่มมีขนาดใหญ่และมีสีชมพู การให้โปรตีนมากขึ้นจึงเป็นวิธีบำรุงลูก ๆ ในท้องให้กับเจ้าตูบ แต่ก็ยังไม่ควรให้อาหารมากจนเกินไป เพียงแค่เพิ่มโปรตีนขึ้นจากเดิมก็พอแล้ว
สุนัขท้อง 4 สัปดาห์ ถึงช่วงนี้สุนัขอาจจะเริ่มมีอาการแพ้ท้อง กินอาหารไม่ได้ หรือกินได้น้อยลง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ได้เป็นอันตราย เจ้าของยังไม่ต้องกังวลจนเกินไป แต่ก็สามารถเปลี่ยนอาหารให้กับเขาเพื่อเพิ่มความอยากอาหารได้ เช่น ใช้เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะไม่ติดมัน รวมถึงผักและธัญพืชสะอาด ๆ นอกจากนี้ก็ควรเปลี่ยนไปให้อาหารสุนัขที่เป็นสูตรสำหรับสุนัขตั้งท้องโดยเฉพาะ เพื่อให้เจ้าตูบได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อลูกในท้อง
สุนัขท้อง 5 สัปดาห์ ช่วงสัปดาห์นี้ยังไม่ต้องทำอะไรมากนัก เจ้าของสามารถตรวจเลือดของสุนัขเพื่อยืนยันว่าสุนัขตั้งท้องได้ และสามารถสอบถามสัตวแพทย์ได้ว่าสุนัขท้องกี่เดือนมาแล้ว เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอดที่ใกล้จะมาถึง
สุนัขท้อง 6 สัปดาห์ ท้องของสุนัขที่ท้องในระยะนี้จะขยายขนาดใหญ่มากขึ้น ๆ ซึ่งเจ้าของสามารถให้อาหารเพื่อบำรุงลูก ๆ ในท้องได้มากขึ้นด้วยการเพิ่มแคลอรี่ โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุเข้าไป
สุนัขท้อง 7 สัปดาห์ หากคุณไม่อยากลุ้นแต่อยากรู้ว่าลูกสุนัขในท้องจะมีจำนวนทั้งหมดกี่ตัวก็สามารถเอ็กซเรย์เพื่อดูความเคลื่อนไหวของตูบน้อยได้ นอกจากนี้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่แม่สุนัขจะปัสสาวะบ่อยมาก ควรจะเตรียมผ้าหรือแผ่นรองปัสสาวะไว้ให้เพียงพอถ้าไม่อยากให้บ้านเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคลุ้ง
สุนัขท้อง 8 สัปดาห์ ช่วงนี้ไม่ควรให้อาหารสุนัขมากจนเกินไป ให้แบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ และห้ามให้สุนัขออกกำลังกายหนัก แต่ควรให้สุนัขท้องได้พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวคลอดมากกว่า
สุนัขท้อง 9 สัปดาห์ สัปดาห์นี้เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์สุดท้าย ลูกสุนัขจะเริ่มดิ้นจนแม่สุนัขร้องเสียงดังและกระสับกระส่ายเพราะไม่สบายตัว เมื่อถึงเวลานี้เจ้าของควรจะเตรียมลังกระดาษ กล่อง และผ้าขนหนูเอาไว้รอลูก ๆ ที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลก และหมั่นวัดอุณหภูมิของสุนัขบ่อย ๆ หากว่าอุณหภูมิลดลงเรื่อย ๆ แสดงว่าสุนัขกำลังจะคลอดลูกภายใน 24 ชั่วโมงนี้ ที่สำคัญควรจะเตรียมอาหารให้กับคุณแม่เพิ่งคลอดมากกว่าเดิม 2 – 4 เท่า โดยเน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเป็นหลัก
สุนัขท้อง 10 สัปดาห์ สำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ก็อาจจะมีอายุครรภ์ได้นานถึง 10 สัปดาห์ เจ้าของจึงไม่ควรกังวลใจ แต่ให้เตรียมดูแลเหมือนกับสุนัขที่ท้อง 9 สัปดาห์ได้เลย
การดูแล สุนัขท้องกี่เดือน ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินหรือเรื่องที่อยู่อาศัยก็ตาม เจ้าของเพียงคอยให้ความรักไม่ให้คุณแม่สี่ขามือใหม่กังวลเกินไป และให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ ก็มากพอแล้ว
อ่านบทความ 10 อันดับ แชมพูแมว ยี่ห้อไหนบำรุงขนให้กับน้องแมวได้ดี 2022
เครดิตรูปภาพทั้งหมด : www.pixabay.com