เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่าสัตว์ชนิดใด ๆ ก็ตามที่มีขนปกคลุมร่างกายนั้น จะมาพร้อมกับผิวหนังที่หากไม่ดูแลรักษาให้ดีก็จะมีการเกิดเป็นสะเก็ดหรือเกิดอาการคัน ที่จะทำให้เราสังเกตได้ว่าขนของเขาจะร่วงออกมาได้นั่นเอง อย่างการเลี้ยงน้องหมานั้นเรียกได้ว่าเรื่องของการที่ สุนัขเป็นเชื้อรา มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เลยนั่นเอง เพราะมันอาจจะนำเชื้อเหล่านั้นมาติดต่อสู่คนได้ และวันนี้บทความของเราก็จะมาแชร์ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการที่สุนัขเป็นเชื้อรานี้มาแนะนำให้ทุกท่านได้ดูกันค่ะ
สุนัขเป็นเชื้อรา จะรักษาและดูแลอย่างไร มาดูกัน
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์มักจะมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติต่อร่างกายอยู่บ่อยครั้งค่ะ อย่างในสุนัขนั้นก็จะมีปัญหาเรื่องของของสุนัขเป็นเชื้อรามาให้คนเลี้ยงได้คอยเฝ้าระวังอยู่เสมอ ซึ่งอาการของการเป็นเชื้อราในสุนัขนั้นก็เป็นสิ่งที่คนเลี้ยงสามารถสังเกตได้เองค่ะ แล้วอาหการเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในสุนัขเท่านั้น เพราะสัตว์เลี้ยงอย่างแมวที่ใครหลาย ๆ คน นั้นเลี้ยงอยู่ก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกันค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของสุนัขเป็นเชื้อรากันดูดีกว่าค่ะ
สาเหตุของการที่ สุนัขเป็นเชื้อรา
การที่สุนัขเป็นเชื้อรานั้นก็มีสาเหตุหลักจากเรื่องของการที่ภูมิคุ้มกันของสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นอ่อนแอค่ะ ซึ่งเมื่อภูมิคุ้มกันมีความอ่อนแอเรื่องของผลที่ตามมานั้นก็คือมันสามารถที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และในเรื่องของการเกิดเชื้อรานี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับสัตว์ที่มีอายุน้อยหรือในสัตว์ที่มีอายุมากแล้ว และมักจะพบเห็นได้บ่อยมาก ๆ อีกด้วย และนอกจากนี้อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นเชื้อรานั้นก็มาจากเองของสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ซึ่งก็จะสังเกตุได้ว่าช่วงหน้าฝนนี้สุนัขจะเป็นเชื้อราบ่อยมาก ๆ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นที่จะต้องเฝ้าดูแลและสังเกตอาการของเขาบ่อย ๆ นั่นเองค่ะ โดยเชื้อราในสุนัขนั้นมักจะเกิดที่บริเวณผิวหนังของสุนัข เส้นผม และเล็บของสุนัข ซึ่งในสุนัขนั้นก็มักจะพบอยู่ในกลุ่มของ Microsporum Canis มากที่สุดนั่นเอง
อาการที่เกิดขึ้นของสุนัขเมื่อเป็นเชื้อรา
สำหรับอาการแรกที่คุณนั้นจะรับรู้ได้เลยว่าสุนัขนั้นจะมีอาการเกาและคันแบบผิดปกติ อีกทั้งหากสังเกตดี ๆ แล้วจะมีขนที่ร่วงมากขึ้นค่ะ และที่สำคัญเมื่อขนที่ร่วงมากขึ้นนั้นก็จะทำให้สะเก็ดเกิดขึ้นที่ผิวหนังของสุนัข ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถที่จะเริ่มคาดเดาได้แล้วค่ะว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการที่สุนัขเป็นเชื้อราเข้าแล้ว ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องนำเขาไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยโรคและรักษาอาการได้อย่างถูกต้องนั่นเอง และมันจะเป็นอันตรายต่อผู้เลี้ยงในช่วง 1-3 สัปดาห์ของการฟักตัวของเชื้อเหล่านี้ ซึ่งมันก็สามารถที่จะแพร่เชื้อรามาสู่คนได้นั่นเองค่ะ
การรักษาเมื่อสุนัขเป็นเชื้อรา
ในด้านการรักษาเมื่อสุนัขเป็นเชื้อรานั้น ทางแพทย์จะมีการถอนขนเพื่อตรวจดูสปอร์ของของเชื้อราโดยจะใช้โคมไฟ Wood Lamp ส่องตรวจในบริเวณที่เป็นรอยที่เกิดเป็นเชื้อรา ซึ่งหากพบว่ามีสีเขียว แสดงว่าสุนัขของคุณก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อราได้ และจะต้องทำการรักษาในทันที ซึ่งแพทย์ก็จะให้เป็นยาสำหรับทานซึ่งเป็นยาประเภท Terbinafine Itraconazole หรือ Fluconazole และอีกวิธีหนึ่งก็คือการทายาแบบจุ่ม ที่จะใช้รักษาในสุนัขที่เป็นสายพันธุ์เล็กหรือในสุนัขที่มีอายุน้อยที่ยังไม่พร้อมที่จะทานยานั่นเอง
ใช้วิธีการอาบน้ำด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของ Miconazole Ketoconazole 2% เพราะมันจะเป็นการช่วยลดเรื่องของจำนวนสปอร์ของเชื้อราได้เป็นอย่างดี ทำให้โอกาสในการติดเชื้อที่จะทำให้เกิดโรคนั้นลดลงตามไปด้วยนั่นเอง แต่วิธีนี้ก็จะเป็นวิธีการรักษาแบบชั่วคราวเท่านั้น และอีกหนึ่งวิธีที่เป็นวิธีที่จะช่วยลดการเกิดเชื้อราในสุนัขได้ก็คือการตัดขนค่ะ ซึ่งการตัดขนนั้นจะเป็นการช่วยลดความชื้นที่ผิวหนังของสุนัข ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อรา โดยเฉพาะในสุนัขที่มีสายพันธุ์แบบขนหนาและยาวนั้นก็ควรที่จะหาช่างตัดผมที่มีฝีมือมาทำการตัดแต่ง เพื่อเอื้ต่อการทายาและลดปัญหาการเกิดเชื้อราได้นั่นเอง
และนี่ก็คือวิธีดูแลรักษาการที่ สุนัขเป็นเชื้อรา นั่นเอง ซึ่งที่เราได้นำมาแชร์เป็นความรู้ให้แก่ทุก ๆ ท่านนี้ ก็เพื่อที่จะให้คุณนั้นสามารถที่จะติดตามและดูแลสุนัขของคุณให้ดียิ่งขึ้น และลดปัญหาการเกิดเชื้อราเนื่องจากสุนัขเป็นเชื้อราได้ เพราะเชื้อราเหล่านี้มันสามารถที่จะแพร่สู่มนุษย์ได้ หากไม่ป้องกันและปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจจะเกิดผลที่ไม่ดีตามมา เพราะฉะนั้นการดูแลสุนัขของคุณให้ไม่เป็นเชื้อราหรือป้องกันใด ๆ ได้นั้นก็จะดีกว่ามาก ๆ เลยล่ะค่ะ
อ่านบทความ ยากำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อไหนดี กำจัดหมดจดตายเกลี้ยง ไม่รบกวนน้องหมา 2022